ก่อนที่คุณจะตัดสินใจเปิดร้านอาหาร สิ่งที่ต้องคำนึงถึงเป็นอันดับแรกคงจะเป็นทำเลของร้าน เพราะหากยังหาสถานที่ที่เหมาะสมไม่ได้ การวางแผนธุรกิจเกี่ยวร้านในเรื่องอื่นๆ คงไม่มีความหมาย อีกทั้ง การเลือกทำเลเพียงเพราะความชอบส่วนตัว อาจไม่ได้ส่งผลดีกับธุรกิจของคุณเท่าใดนัก วันนี้ เราจึงขอนำเสนอ 4 ปัจจัยในการเลือกทำเลร้านอาหาร เพื่อเป็นแนวทางสำหรับคุณในการหาทำเลดีๆ ดังนี้
1. การศึกษาฐานข้อมูลจากกลุ่มคน (Population Base)
สำรวจผู้คนบริเวณนั้นว่า...เป็นคนประเภทไหน อายุเท่าไหร่ การศึกษากลุ่มไหน ระดับรายได้ รสนิยม และที่อยู่บริเวณนั้นมีกลุ่มอาชีพหลักใดบ้าง เช่น กลุ่มคนออฟฟิศ, กลุ่มคนโรงงานอุตสาหกรรม, กลุ่มเด็กนักเรียน ฯลฯ รวมถึงการพิจารณาช่วงเวลาพักของกลุ่มลูกค้าแต่ละประเภท เช่น สาวออฟฟิศจะช้อปปิ้งเวลาพักเที่ยงและช่วงเย็น รวมไปถึงการดูปริมาณคนที่อาศัยบริเวณนั้นหรือคนที่ผ่านไปมามีมากน้อยเพียงใด ยกตัวอย่าง เช่น ธุรกิจร้านอาหารที่ตั้งอยู่ย่านช้อปปิ้งซึ่งอยู่ใจกลางเมืองที่มีความเจริญหรือตามถนนที่มีคนเดินพลุกพล่าน มักจะมีกลุ่มคนแวะเวียนเข้ามาในร้านอาหารบ่อยๆ เป็นข้อพิจารณาสำคัญที่คุณควรนึกด้วยว่า การเลือกทำเลต้องมีคนอาศัยอยู่บริเวณนั้นหรือเดินผ่านไปผ่านมามากพอ เพื่อดึงดูดให้กลุ่มคนเหล่านั้นแวะเข้ามาในร้านอาหาร กรณีศึกษาของเมืองนอก การศึกษาจาก Population Base ได้มีเว็บไซต์ที่รับจ้างทำวิจัยเกี่ยวกับเรื่องนี้โดยเฉพาะ ซึ่งต้องมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ $25,000 (ประมาณ 825,000 บาท) แต่ส่วนใหญ่คนที่อยากจะเปิดร้านอาหารครั้งแรก คงมีเงินไม่มากพอที่จะจ้างทีมงานสำรวจแน่ๆ แต่อย่าเพิ่งหมดหวัง เพราะยังมีวิธีการอื่นๆอีก ที่สามารถศึกษาได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ เลย เช่น การสำรวจพื้นที่เพื่อทำสถิติรวบรวมข้อมูลด้วยตัวเอง หรือการสอบถามข้อมูลจากสำนักงานที่เกี่ยวข้องกับประชากรหรือการค้า
2. ที่จอดรถ (Parking)
อย่าคิดว่าที่จอดรถไม่ใช่เรื่องสำคัญ เพราะต่อให้เปิดร้านอาหารจัดแต่งอย่างสวยงาม อาหารรสชาติดีแค่ไหน ถ้าไม่สามารถตอบโจทย์ในข้อนี้ได้ ลูกค้าก็คงไม่ต้องการเข้าร้านเช่นกัน เป็นเรื่องสำคัญที่เจ้าของธุรกิจร้านอาหารต้องคิดแล้วว่า ที่จอดรถจะสามารถรองรับรถลูกค้าได้เพียงพอและอำนวยความสะดวกต่อลูกค้าทุกท่านไหม? จะเป็นเรื่องดีมาก..หากเจ้าของร้านอาหารมีที่จอดรถเป็นของร้านเอง ในกรณีร้านอาหารไม่มีที่จอดจริงๆ สามารถเช่าอาคารที่จอดรถได้เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากร้านอาหารมากนัก หรืออาจจะมีบริการรับจอดรถ (Valet Parking) คือ บริการนำรถไปจอดให้กับลูกค้า ซึ่งจะมีพนักงานคอยรับรถไปจอดให้ โดยที่ลูกค้าไม่จำเป็นต้องหาที่จอดเอง
3. ทำเลที่สะดวก (Accessibility)
เป็นอีกหัวข้อหลักที่เจ้าของร้านควรพิจารณาสำหรับการเลือกทำเลก่อนการเปิดร้านอาหาร โดยเลือกจากที่ตั้งบริเวณถนนสายหลักใหญ่ๆ หรืออาจจะเป็นถนนที่ใกล้กับทางด่วน มีเส้นทางผ่านหลายสาย จะช่วยให้ลูกค้าหรือรถยนต์ รถโดยสารเข้าถึงตัวร้านอาหารได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องทนติดไฟแดงหรือการจราจรที่ติดขัด ธุรกิจร้านอาหารที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่ มักจะมีทำเลที่หาง่ายและไม่ลึกลับซับซ้อน ถึงแม้จะมีบ้างร้านที่เข้าถึงยากแต่ก็ยังขายได้ดี แต่ที่เรามักได้ยินกันว่าขอแค่ทำอาหารอร่อยก็มีคนมาทาน อยากให้คิดตามดูดีๆว่า ธุรกิจร้านอาหารที่ประสบความสำเร็จโด่งดังมีชื่อเสียงแน่นอนว่าเราคงเคยได้ยินกัน แต่จะมีสักกี่ร้านกันที่อยู่ในทำเลหายากแต่ก็ยังคงประสบความสำเร็จในการนำเนินธุรกิจ ที่ล้มหายตายจากไปโดยที่ไม่แม้แต่จะมีคนรู้จักก็มีอยู่เยอะไป เมื่อเทียบกับร้านอาหารที่ขายดี ดังนั้น ร้านทำเลดีหาง่ายมีคนผ่านไปผ่านมาเยอะ รับรองว่าโอกาสที่จะล้มหายตายจากไปโดยที่ยังไม่ได้ขายก็น้อยลงตามไปด้วย
4. ทัศนวิสัย (Visibility)
คือ การเปิดร้านอาหารในทำเลที่สามารถมองเห็นได้ชัดเจน ไม่อยู่ในที่ลับตา ข้อนี้จะเชื่อมโยงกับข้อสาม หากร้านอาหารมีทำเลตั้งที่สามารถเข้าถึงง่าย ก็จะส่งผลให้ทัศนวิสัยของร้านเด่นชัดไปด้วย สิ่งที่เจ้าของร้านอาหารควรทำในข้อนี้ คือ ทำอย่างไรให้กลุ่มคนหรือลูกค้าสามารถเห็นและรู้ว่าเปิดร้านอาหารอยู่ที่ไหน? ซึ่งนี่ก็เป็นเหตุผลที่แสดงให้เห็นว่า ทำไมการเปิดร้านอาหารที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองถึงมีค่าที่แพงมากกว่าที่อื่น เพราะสถานที่ตรงนั้นสามารถตอบโจทย์เรื่องทัศนวิสัยได้ดี เป็นเรื่องที่ทำให้ธุรกิจร้านอาหารเดินต่อไปได้อย่างไม่ต้องสงสัย
...และนี่คือ 4 หัวใจหลักในการเลือกทำเลร้านอาหาร ที่จะช่วยให้การเปิดร้านอาหารของคุณเดินต่อไปได้อีกก้าว เพราะมันเป็นเพียงจุดเริ่มต้นที่มิอาจมองข้ามได้เลย...
ที่มา : http://food4friend.com/content/เลือกทำเลเปิดร้านอาหารยังไงให้ขายดี
18 สิงหาคม 2564
ผู้ชม 11789 ครั้ง